วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) จ.กรุงเทพฯ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร /-เชดตุพนวิมนมังคฺลาราม-/ หรือ วัดโพธิ์ เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็นวัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ ๑ ทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง และทางยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกเมื่อ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ ๙๙ องค์[๒] พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
วัดพระเชตุพนในประวัติการสร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการสร้าง เดิมเรียกว่า "วัดโพธาราม" หรือ "วัดโพธิ์" ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงในสมัยกรุงธนบุรี ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดนี้ใหม่ใน พ.ศ. ๒๓๓๑ โดยทรงสร้างพระอุโบสถ พระระเบียง พระวิหาร ตลอดจนบูรณะของเดิม เมื่อแล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๓๔๔ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส” เป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
นับจากนั้นวัดพระเชตุพนได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้โปรดเกล้าฯ ให้จารึกสรรพตำราต่าง ๆ ลงบนแผ่นหินอ่อนประดิษฐ์ไว้ตามศาลารายต่าง ๆ ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แก้สร้อยนามพระอารามว่า “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร”
พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ทรงถือว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นพระอารามหลวงที่มีความสำคัญมาก และทรงถือเป็นพระราชประเพณี ที่จะทรงบูรณะซ่อมแซมวัดนี้ทุกรัชกาล นอกจากนี้ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามยังเป็นเสมือนมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย เพราะเป็นแหล่งรวบรวมวิชาความรู้ด้านต่าง ๆ ทั้งประวัติศาสตร์ วรรณกรรม และการแพทย์ นามวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามนี้ ปรากฏในประกาศสมัยรัชกาลที่ ๔ พ.ศ. ๒๔๑๑ ว่า “วัดนี้แม้จะมีนามพระราชทานมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ แต่ชื่อพระราชทานมีผู้เรียกแต่อยู่ในพระราชวัง คนยังเรียกว่าวัดโพธิ์กันทั้งแผ่นดิน” และมีพระราชดำริว่า “ชื่อพระราชทานเป็นชื่อตั้งไม่ปิดไม่แน่นจะคิดแปลงใหม่เห็นจะไม่ชนะ”
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ ๙๙ องค์[๒] พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
วัดพระเชตุพนในประวัติการสร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการสร้าง เดิมเรียกว่า "วัดโพธาราม" หรือ "วัดโพธิ์" ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงในสมัยกรุงธนบุรี ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดนี้ใหม่ใน พ.ศ. ๒๓๓๑ โดยทรงสร้างพระอุโบสถ พระระเบียง พระวิหาร ตลอดจนบูรณะของเดิม เมื่อแล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๓๔๔ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส” เป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
นับจากนั้นวัดพระเชตุพนได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้โปรดเกล้าฯ ให้จารึกสรรพตำราต่าง ๆ ลงบนแผ่นหินอ่อนประดิษฐ์ไว้ตามศาลารายต่าง ๆ ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แก้สร้อยนามพระอารามว่า “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร”
พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ทรงถือว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นพระอารามหลวงที่มีความสำคัญมาก และทรงถือเป็นพระราชประเพณี ที่จะทรงบูรณะซ่อมแซมวัดนี้ทุกรัชกาล นอกจากนี้ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามยังเป็นเสมือนมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย เพราะเป็นแหล่งรวบรวมวิชาความรู้ด้านต่าง ๆ ทั้งประวัติศาสตร์ วรรณกรรม และการแพทย์ นามวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามนี้ ปรากฏในประกาศสมัยรัชกาลที่ ๔ พ.ศ. ๒๔๑๑ ว่า “วัดนี้แม้จะมีนามพระราชทานมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ แต่ชื่อพระราชทานมีผู้เรียกแต่อยู่ในพระราชวัง คนยังเรียกว่าวัดโพธิ์กันทั้งแผ่นดิน” และมีพระราชดำริว่า “ชื่อพระราชทานเป็นชื่อตั้งไม่ปิดไม่แน่นจะคิดแปลงใหม่เห็นจะไม่ชนะ”
ก่อนเสี่ยงทายเซียมซี ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ โดยหลับตาหายใจเข้า-ออกลึกๆ สัก ๑ นาที หรือจนรู้สึกว่าจิตใจสงบแล้ว พร้อมแล้ว ค่อยเริ่มเสี่ยงทาย หากท่านไม่สะดวกเรื่องเวลา เร่งรีบ หรือมีอย่างอื่นที่ต้องทำ มีเสียงดังรบกวน ไม่มีสมาธิแนะนำให้เสียงทายภายหลังจะดีกว่า เมื่อใจสงบเป็นสมาธิดีแล้ว ให้ตั้งจิตอธิษฐานระลึกเสมือนท่านอยู่ที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) จ.กรุงเทพฯ แล้วอธิษฐานดังนี้
ข้าพเจ้า นาย/นาง/นางสาว ....(บอกชื่อของท่าน)..... เกิดวันที่ ........ เดือน .............. พุทธศักราช ........... ขอตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) จ.กรุงเทพฯและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือ .... (บอกชื่อของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เคารพนับถือ) .... ขออาศัยบารมีของท่านทั้งหลาย ช่วยเปิดชะตาทำนายเสี่ยงโชคให้ข้าพเจ้า บอกกล่าวเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นผ่านเซียมซีนี้ด้วยเทอญ
ตั้งจิตอธิษฐานเพ่งระลึกถึงเรื่องราว บุคคล หรือที่เกี่ยวข้องกับคำถาม แล้วให้เขย่าเสี่ยงเซียมซี โดย คลิ๊กรูปเซียมซีด้านล่าง รอสักครู่ ได้หมายเลขอะไรก็อ่านใบเซียมซีเฉพาะเรื่องนั้นๆ ซึ่งเป็นคำทำนายรวมของเรื่องนั้นๆ ว่าดีหรือไม่อย่างไร .... คลิ๊กเซียมซีด้านล่าง
ข้าพเจ้า นาย/นาง/นางสาว ....(บอกชื่อของท่าน)..... เกิดวันที่ ........ เดือน .............. พุทธศักราช ........... ขอตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) จ.กรุงเทพฯและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือ .... (บอกชื่อของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เคารพนับถือ) .... ขออาศัยบารมีของท่านทั้งหลาย ช่วยเปิดชะตาทำนายเสี่ยงโชคให้ข้าพเจ้า บอกกล่าวเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นผ่านเซียมซีนี้ด้วยเทอญ
ตั้งจิตอธิษฐานเพ่งระลึกถึงเรื่องราว บุคคล หรือที่เกี่ยวข้องกับคำถาม แล้วให้เขย่าเสี่ยงเซียมซี โดย คลิ๊กรูปเซียมซีด้านล่าง รอสักครู่ ได้หมายเลขอะไรก็อ่านใบเซียมซีเฉพาะเรื่องนั้นๆ ซึ่งเป็นคำทำนายรวมของเรื่องนั้นๆ ว่าดีหรือไม่อย่างไร .... คลิ๊กเซียมซีด้านล่าง